การตัดสินใจต่อเติมบ้านเป็นเรื่องใหญ่ที่หลายครอบครัวต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการขยายพื้นที่ใช้สอยให้กว้างขวางขึ้น หรือปรับปรุงฟังก์ชันการใช้งานให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป การเตรียมความพร้อมที่ดีจะช่วยให้การต่อเติมเป็นไปอย่างราบรื่นและลดโอกาสเกิดปัญหาตามมา บทความนี้จะพาไปสำรวจข้อควรรู้ต่าง ๆ เพื่อให้การต่อเติมบ้านของเราเป็นไปตามแผนที่วางไว้และถูกกฎหมาย

บ้านลักษณะไหนที่ควรรีบต่อเติมบ้าน

เมื่อเวลาผ่านไปบ้านอาจต้องดูแลและปรับปรุงเพื่อให้ยังคงน่าอยู่และปลอดภัย การพิจารณาต่อเติมบ้านหรือปรับปรุงใหม่จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะบ้านที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ควรได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

  • บ้านที่โครงสร้างเดิมเริ่มมีปัญหา เช่น ผนังร้าว พื้นทรุด หรือหลังคารั่วซึม
  • บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอต่อจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น
  • บ้านที่ต้องการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งาน เช่น ต้องการห้องทำงานเพิ่ม หรือปรับปรุงห้องครัวให้ทันสมัย
  • บ้านที่ทรุดโทรมตามกาลเวลา ทำให้ดูไม่สวยงามและอาจไม่ปลอดภัย
  • บ้านที่ต้องการเพิ่มมูลค่าในกรณีที่วางแผนจะขายต่อในอนาคต

พื้นที่ยอดฮิตที่เจ้าของบ้านนิยมต่อเติมบ้าน

การต่อเติมบ้านไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขยายพื้นที่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการสร้างสรรค์พื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัย มีหลายส่วนของบ้านที่เจ้าของบ้านมักเลือกที่จะต่อเติมเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยและความสุขในการอยู่อาศัย

  • ห้องครัว ขยายพื้นที่ห้องครัวเดิม หรือสร้างเคาน์เตอร์ครัวใหม่ให้มีพื้นที่จัดเตรียมและทำอาหารสะดวกขึ้น
  • ห้องนอน เพิ่มจำนวนห้องนอนเพื่อรองรับสมาชิกใหม่ หรือขยายห้องนอนเดิมให้กว้างขวางขึ้น
  • ห้องน้ำ เพิ่มจำนวนห้องน้ำ หรือปรับปรุงห้องน้ำเดิมให้ทันสมัยและถูกสุขลักษณะมากขึ้น
  • พื้นที่หลังบ้าน ต่อเติมเป็นส่วนซักล้าง ลานอเนกประสงค์ หรือห้องเก็บของ
  • พื้นที่หน้าบ้านหรือข้างบ้าน ต่อเติมเป็นโรงจอดรถ เฉลียงนั่งเล่น หรือห้องทำงานขนาดเล็ก

7 เรื่องควรรู้ ก่อนต่อเติมบ้าน

เพื่อให้การต่อเติมเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง การศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ ก่อนตัดสินใจลงมือต่อเติมบ้านมี 7 เรื่องหลักที่เราควรให้ความสำคัญและตรวจสอบให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในภายหลัง และให้มั่นใจว่าการลงทุนของเราคุ้มค่าที่สุด

1. โครงสร้างหลักของบ้านรองรับการต่อเติมได้ไหม

ก่อนเริ่มต่อเติมบ้านสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการตรวจสอบโครงสร้างหลักของบ้านเดิม ว่ามีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักส่วนที่ต่อเติมเพิ่มเข้ามาได้หรือไม่ การต่อเติมโดยไม่คำนึงถึงศักยภาพการรับน้ำหนักของโครงสร้างเดิมอาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรง เช่น การทรุดตัวของโครงสร้าง หรือแม้กระทั่งการพังทลาย ดังนั้น ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างเพื่อประเมินและให้คำแนะนำที่ถูกต้องก่อนดำเนินการต่อเติมทุกครั้ง

2. ชนิดและขนาดของเสาเข็มที่ใช้

เสาเข็มเป็นส่วนสำคัญในการรับน้ำหนักของอาคาร หากส่วนที่ต่อเติมมีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก การลงเสาเข็มใหม่สำหรับส่วนต่อเติมโดยเฉพาะอาจเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันปัญหาการทรุดตัวที่แตกต่างกันระหว่างอาคารเดิมและส่วนต่อเติม ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยร้าวหรือความเสียหายต่อโครงสร้างได้ การเลือกชนิดและขนาดของเสาเข็มต้องพิจารณาจากลักษณะของดินและน้ำหนักของส่วนที่ต่อเติม ดังนี้ หากพื้นที่อยู่ในกรุงเทพหรือพื้นที่ดินอ่อน ควรใช้เข็มลึก 18-21 เมตร และควรมีแบบอาคารเดิมหรือข้อมูลจากวิศวกรโครงสร้างสำรวจพื้นที่เพื่อนำข้อมูลมาออกแบบโครงสร้างส่วนต่อเติม และที่สำคัญควรระวังการเลือกใช้ชนิดเข็มที่มีผลกับอาคารเดิมเช่น เสาเข็มไมโครไพล์ เสาเข็มเจาะ

3. บริเวณที่จะต่อเติมมีพื้นที่เหมาะสมไหม

การพิจารณาพื้นที่ที่จะต่อเติมบ้านไม่เพียงแต่ดูความกว้างยาวของพื้นที่เท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงกฎหมายควบคุมอาคารที่เกี่ยวข้องกับระยะร่นจากแนวเขตที่ดินเพื่อนบ้าน ถนน หรือแหล่งน้ำสาธารณะด้วย การต่อเติม โดยไม่เว้นระยะที่ถูกต้องตามกฎหมายอาจนำไปสู่ข้อพิพาทหรือคำสั่งรื้อถอนได้ในภายหลัง จึงควรตรวจสอบข้อกำหนดเหล่านี้ให้ชัดเจนและออกแบบให้สอดคล้องกับพื้นที่ที่มีอยู่จริง

4. โครงสร้างพื้น

โครงสร้างพื้นระหว่างอาคารเดิมและอาคารที่ต่อเติมใหม่ ถือเป็นจุดที่เกิดปัญหาเรื่องทรุด แยกตัว และรั่วซึมได้ง่าย โครงสร้างพื้นของส่วนต่อเติมบ้านจึงต้องได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและสามารถเชื่อมต่อกับพื้นเดิมได้อย่างมั่นคงแข็งแรง โดยพื้นควรแยกโครงสร้างเดิมกับส่วนต่อเติม ควรเว้น JOINT รอยต่อ และใส่วัสดุยึดที่ยืดหยุ่น เช่น ซิลิโคน โฟม หากเป็นการต่อเติมบนพื้นดินโดยตรง ควรมีการบดอัดดินให้แน่นและมีการป้องกันความชื้นอย่างเหมาะสม กรณีที่เป็นการต่อเติมบนชั้นสองหรือชั้นที่สูงขึ้นไป ต้องมั่นใจว่าโครงสร้างคานและเสาเดิมสามารถรับน้ำหนักพื้นใหม่ได้โดยไม่เกิดปัญหา การเลือกใช้วัสดุปูพื้นก็ควรคำนึงถึงความทนทานและการดูแลรักษาด้วย

5. เลือกวัสดุให้เหมาะกับการใช้งานและพื้นที่ต่อเติม

การเลือกใช้วัสดุในการต่อเติมควรพิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้งานของพื้นที่นั้น ๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ เช่น หากต่อเติมห้องครัว ควรเลือกวัสดุที่ทนความร้อนและความชื้น ทำความสะอาดง่าย หากเป็นพื้นที่ภายนอก ควรเลือกวัสดุที่ทนแดดทนฝน การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของส่วนต่อเติมบ้าน แต่ยังส่งผลต่อความสวยงามและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยด้วย

6. พื้นดินบริเวณที่จะต่อเติมมีการทรุดหรือเปล่า

ก่อนทำการต่อเติมโดยเฉพาะส่วนที่ติดกับพื้นดิน ควรสำรวจสภาพดินบริเวณนั้นว่ามีประวัติการทรุดตัวหรือไม่ หากดินมีการทรุดตัวสูง อาจจำเป็นต้องมีการปรับปรุงคุณภาพดินหรือใช้เสาเข็มที่มีความยาวเหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว การทรุดตัวของดินที่ไม่สม่ำเสมอระหว่างอาคารเดิมและส่วนต่อเติมเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของรอยแตกร้าวและความเสียหายที่พบได้บ่อยในการต่อเติมบ้าน

7. หลังคาและทิศทางน้ำฝน

การออกแบบหลังคาของส่วนมีความสำคัญอย่างมาก โดยต้องคำนึงถึงการป้องกันปัญหารั่วซึมบริเวณรอยต่อระหว่างหลังคาเดิมกับหลังคาใหม่ รวมถึงการจัดการทิศทางการไหลของน้ำฝนไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้าน หรือไหลย้อนเข้าตัวบ้าน การติดตั้งรางน้ำฝนและท่อระบายน้ำที่เหมาะสมจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ การเลือกวัสดุมุงหลังคาที่เข้ากันได้กับของเดิมและมีความทนทานก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณาในการต่อเติมบ้าน

กฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับการต่อเติมบ้าน

นอกเหนือจากเรื่องโครงสร้างและวัสดุแล้ว สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยในการต่อเติมบ้านคือข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บางลักษณะจำเป็นต้องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร การทำความเข้าใจข้อกำหนดเหล่านี้จะช่วยให้การต่อเติมบ้านของเราถูกต้องและไม่สร้างปัญหาตามมา

การต่อเติมบ้านที่ต้องขออนุญาต

การปรับปรุงหรือขยายพื้นที่ใช้สอยในบ้านบางกรณีจำเป็นต้องแจ้งและยื่นขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามข้อบังคับ การดำเนินการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะต้องมีสถาปนิกหรือวิศวกรผู้ได้รับอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบและลงนามรับรองในแบบแปลน การปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดยังช่วยป้องกันปัญหาในอนาคต เช่น กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน รถกู้ภัยจะสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวก

  • การก่อสร้างหรือดัดแปลงที่เกี่ยวข้องกับเสาหรือคาน หรือการสร้างห้องใหม่ หากส่งผลให้พื้นที่ใช้สอยรวมเพิ่มขึ้นเกินกว่า 5 ตารางเมตร จำเป็นต้องยื่นขออนุญาต
  • การต่อเติมที่มีส่วนของอาคารอยู่ใกล้แนวรั้วของบ้านข้างเคียง จำเป็นต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของที่ดินแปลงนั้น และไม่อนุญาตให้มีช่องเปิดเช่นหน้าต่าง หรือส่วนยื่นอย่างระเบียงที่อาจรบกวนความเป็นส่วนตัวของบ้านติดกัน
  • สำหรับบ้านเดี่ยว จะต้องมีพื้นที่ว่างรอบตัวบ้านเหลืออยู่อย่างน้อยร้อยละ 30 ของที่ดิน
  • อาคารประเภททาวน์เฮาส์ ต้องรักษาระยะเว้นว่างด้านหน้าอาคารอย่างน้อย 3 เมตร และด้านหลังอาคารอย่างน้อย 2 เมตร
  • กรณีต่อเติมเป็นห้องที่มีหน้าต่าง ประตู ช่องแสง หรือช่องระบายอากาศ ผนังด้านดังกล่าวจะต้องมีระยะห่างจากแนวเขตที่ดินมากกว่า 3 เมตร (ข้อบังคับนี้ใช้กับอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 9 เมตร แต่ไม่เกิน 23 เมตร)

การต่อเติมบ้านที่ไม่ต้องขออนุญาต

ไม่ใช่ทุกการปรับปรุงบ้านที่จะต้องยื่นขออนุญาตเสมอไป มีงานต่อเติมหรือซ่อมแซมบางประเภทที่กฎหมายผ่อนผันให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักหรือความปลอดภัยของอาคารโดยรวม

  • การปรับเปลี่ยนส่วนของโครงสร้างอาคาร โดยยังคงใช้วัสดุชนิดเดิม ขนาดเท่าเดิม และจำนวนเท่าเดิม
  • การเปลี่ยนแปลงวัสดุในส่วนประกอบที่ไม่ใช่โครงสร้างหลักของอาคาร เช่น ผนังเบา ฝ้าเพดาน โดยมีเงื่อนไขว่าน้ำหนักรวมของวัสดุใหม่ต้องไม่เพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 10 จากของเดิม
  • การแก้ไขขนาดหรือรูปร่างขององค์ประกอบอาคาร เช่น หน้าต่าง หรือประตู โดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นต้องไม่เกินร้อยละ 10 จากของเดิม
  • การเพิ่มหรือลดขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมีขนาดไม่เกิน 5 ตารางเมตร และไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนเสาหรือคาน
  • การเพิ่มหรือลดขนาดของหลังคา โดยไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนเสาหรือคาน และน้ำหนักรวมของโครงสร้างหลังคาที่เปลี่ยนแปลงต้องไม่เพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 10 จากของเดิม

ต่อเติมบ้านแล้วบ้านทรุดจริงไหม?

คำถามที่ว่าต่อเติมบ้านแล้วบ้านจะทรุดไหม เป็นข้อกังวลยอดฮิตของเจ้าของบ้าน ซึ่งความจริงแล้วการทรุดตัวของบ้านเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าหรือบ้านใหม่ และการต่อเติมอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดการทรุดตัวได้หากทำไม่ถูกวิธี เช่น การลงเสาเข็มของส่วนต่อเติมไม่เหมาะสม หรือการถ่ายน้ำหนักของส่วนต่อเติมลงบนโครงสร้างเดิมที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับ ปัญหาหลักมักเกิดจากการทรุดตัวที่แตกต่างกันระหว่างตัวบ้านเดิมกับส่วนที่ต่อเติมเข้าไปใหม่ อย่างไรก็ตาม หากมีการวางแผนออกแบบที่ดี ปรึกษาวิศวกร และดำเนินการก่อสร้างตามหลักก็สามารถลดความเสี่ยงนี้ได้อย่างมาก

บริการออกแบบต่อเติมบ้าน Morebrother

Morebrother เรามีประสบการณ์ในการออกแบบและให้คำปรึกษาด้านการต่อเติมบ้านมากกว่า 30 ปี ทีมงานสถาปนิกของเราพร้อมให้คำแนะนำและบริการออกแบบต่อเติมบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงความปลอดภัย ความแข็งแรงของโครงสร้าง และความสวยงามที่สอดคล้องกับบ้านเดิม เราใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้การต่อเติมเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากกำลังมองหาบริษัทรับออกแบบบ้านที่ไว้วางใจได้ Morebrother ยินดีให้บริการ

สรุป ข้อควรรู้ในการออกแบบต่อเติมบ้าน 

ข้อควรรู้ในการออกแบบต่อเติมบ้าน

การต่อเติมบ้านเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและความสุขในการอยู่อาศัย การเตรียมความพร้อมและศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องโครงสร้าง วัสดุ กฎหมาย รวมถึงการเลือกผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ จะช่วยให้การต่อเติมเป็นไปอย่างราบรื่น คุ้มค่า และไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง